ผู้บริหาร มจร ร่วมพิธีประทานปริญญาบัตร มมร

22 พ.ย. 63 เวลา 13.00 – 16.00 น. พระโสภณวชิราภรณ์ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ มจร ได้รับอาราธนาเจริญชัยมงคลคาถาในพิธีประทานปริญญาบัตร มมร ประจำปี 2563 โดยมีเจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก เสด็จมาทรงเป็นประธานในพิธีประทานปริญญาบัตร ณ ห้องประชุมสุชีพ ปุญญานุภาพ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ในการนี้ พระโสภณวชิราภรณ์ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ ได้แสดงมุทิตาจิตต่อพระธรรมปัญญาบดี นายกสภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อธิบดีสงฆ์วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ในโอกาสได้รับปริญญาศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (ศน.ด.) สาขาวิชาพุทธศาสน์ศึกษา จากมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย และในโอกาสนี้ ได้พบปะกับพระราชปฏิภาณโกศล (สมคิด จินฺตามโย) อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย และผู้บริหารของมหาวิทยาลัย

สำหรับในปีนี้สภามหาวิทยาลัยได้อนุมัติปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จำนวน 13 รูป/คน ปริญญาดุษฎีบัณฑิต จำนวน 33 รูป/คน ปริญญามหาบัณฑิต จำนวน 131 รูป/คน และปริญญาบัณฑิต จำนวน 1,214 รูป/คน รวมทั้งสิ้น 1,391 รูป/คน

โอกาสนี้ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระโอวาทแก่ผู้สำเร็จการศึกษา ความว่า “ศักดิ์และสิทธิ์แห่งปริญญาบัตร ซึ่งเป็นเครื่องหมายว่าได้สำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรในมหาวิทยาลัยนั้น เปรียบประดุจกุญแจดอกสำคัญ อันจะช่วยไขประตูสู่โอกาสแห่งความรุ่งเรืองในชีวิต ยังให้บัณฑิตสามารถศึกษาเล่าเรียนต่อในชั้นสูงยิ่งขึ้น หรืออาจนำวิชาความรู้ต่างๆ ไปใช้สำหรับประกอบกิจการงานที่พึงประสงค์ให้บรรลุสัมฤทธิผลได้ด้วยอนุภาพแห่งสติปัญญา จึงขอเน้นย้ำว่า ท่านทั้งหลายนับเป็นผู้มีโอกาสดียิ่งกว่าคนอื่นในสังคมมากนัก จึงพึงหมั่นใช้โอกาสที่มี สร้างสรรค์คุณประโยชน์แก่ส่วนรวม ยิ่งกว่าการแสวงหาประโยชน์ส่วนตน ขอจงอย่าหยุดที่จะเพิ่มพูนคุณสมบัติให้เป็นผู้งอกงามด้วยความรู้และความประพฤติอยู่เสมอ เพราะบุคคลใดที่สำคัญผิดคิดว่าตนมีความรู้มากแล้ว มีความประพฤติดีพอแล้ว บุคคลนั้นย่อมได้ชื่อว่าเป็นผู้ประมาท และความประมาทนี้เองจักพาชีวิตของผู้ประมาทแล้ว ให้ถลำลึกลงไปสู่ความตกต่ำอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง ขอบัณฑิตแห่งมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย จงยกเอาสุภาษิตประจำมหาวิทยาลัยที่ว่า “วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน โส เสฏฺโฐ เทวมานุเส” ผู้สมบูรณ์ด้วยความรู้และความประพฤติ เป็นผู้ประเสริฐในหมู่เทพและมนุษย์ เทิดทูนไว้เป็นภาษิตประจำชีวิตตลอดไป เพื่อจะได้มีกำลังพรั่งพร้อมในอันที่จะสร้างสรรค์คุณประโยชน์ยิ่งใหญ่ เป็นผู้ประเสริฐทั้งทางโลกและทางธรรม สมความปรารถนาของท่านผู้ล้วนมุ่งหวังความเจริญก้าวหน้าด้วยกันทุกรูปทุกคน”

อ้างอิง : https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG201122183835349

Scroll to Top