มจร ทำสามีจิกรรมเนื่องในเข้าพรรษาแด่ พระธรรมปัญญาบดี นายกสภา

เมื่อ ๗  กรกฎาคม ๒๕๖๓ เวลา  ๑๖.๒๕ น. คณะผู้บริหาร มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) ทำสามีจิกรรม เนื่องในเทศกาลเข้าพรรษาแด่ พระธรรมปัญญาบดี (พีร์ สุชาโต) นายกสภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, อธิบดีสงฆ์วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร, ที่ปรึกษาเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร, เนื่องในวันเข้าพรรษา ประจำปี ๒๕๖๓ โดยมีพระราชปริยัติกวี, ศ.ดร. อธิการบดี มจร เป็นประธานนำสามีจิกรรม ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร

ในการนี้ พระโสภณวชิราภรณ์ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ นำผู้บริหาร คณาจารย์ และบุคลากรวิทยาลัยพระธรรมทูต และกองวิเทศสัมพันธ์ มจร ร่วมกระทำสามีจิกรรมด้วย

 

การทำสามีจิกรรมเป็นธรรมเนียมของสงฆ์อย่างหนึ่งที่ภิกษุสามเณรพึงทำความชอบต่อกันเพื่อความสามัคคีกัน อยู่ร่วมกันโดยสงบสุข การทำความชอบนี้เรียกว่าสามีจิกรรมหมายถึงการขอขมาโทษกัน ให้อภัยกันทุกโอกาส ไม่ว่าจะมีโทษขัดข้องหมองใจกันหรือไม่ก็ตาม ถึงโอกาสที่ควรทำสามีจิกรรมกันแล้ว ทุกรูปไม่พึงละโอกาสเสีย จึงได้ชื่อว่าเป็นภิกษุสามเณรที่ดี ปฏิบัติชอบตามระบอบพระธรรมวินัย สำหรับโอกาสที่ควรทำสามีจิกรรมนั้น มีดังนี้

๑. ในวันเข้าพรรษา ทั้งภิกษุสามเณรที่อยู่ร่วมวัดเดียวกันควรทำสามีจิกรรมต่อกันเรียงตัวตั้งแต่ผู้มีอาวุโสมากที่สุดถึงสามเณรรูปสุดท้ายในวัด ไม่ควรเว้น เพื่อความสามัคคี

๒. ในระยะเข้าพรรษา เริ่มแต่วันเข้าพรรษาและหลังวันเข้าพรรษา ระยะเวลาประมาณ 7 วัน ควรทำสามีจิกรรมต่อท่านที่ตนเคารพนับถือ ซึ่งอยู่ต่างวัด

๓. ในโอกาสจะจากกันไปอยู่วัดอื่นหรือถิ่นอื่น นิยมทำต่อท่านผู้มีอาวุโสกว่าตนในวัดและต่อท่านที่เคารพนับถือทั่วไป

 

ข่าว : วิทยาลัยพระธรรมทูต, พระมหาวิเชียร สุธีโร 

รายงาน: พระมหาสมาน ชาตวิริโย, ดร.

ภาษาอังกฤษ : พระสิริวรรณะ สิริวณฺโณ

ภาพ :  วิทยาลัยพระธรรมทูต, นายลิขิต บุญละคร

Scroll to Top